วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แปลวรรณกรรม

หนุมานทะยานไปเมืองลังกา
                แต่นั้นผู้ผ่านพื้นพระลามหน่อพระโพธิสัตว์ก็ทะยานทันทีจึงถวายธงให้มาคู่กายและจงตั้งมั่นเอาไว้  แต่แล้วหนุมานก็ขึ้นนั่งเตโซแก้วและทะยานขึ้นโดยใช้หัวเข่าถีบให้จมลงดิน พระก็ถอยถีบคืนเต็มที่เช่นกัน  แต่หนุมานไม่ยอมจึงไปปอมเมฆ เต้นทะยานขึ้นหีบทันทีเลยผ่านเมืองลังกา มีเกาะใหญ่  ตกฟากเป็นเขตแดนรัสสี  ยังมีพระเจ้าตาไฟพระเกตุพักอยู่ที่นั้น  อันว่าเมืองอันใดก็ดีย่อมถูกเผาเป็นผงทุลีท่านจึงหลับตาก้มหน้าภาวะนา ตั้งสติแล้วเงยหน้าขึ้น แต่แล้วหนุมานก็ยังไม่ละความตั้งใจย่องใกล้เข้าไปเพื่อแย่งไฟพระเกตุ  ครูบาจึงเอาฟืนมาค่อยๆ เคาะไฟพระเกตุ เอาปลายด้ามฟืนต่อไฟจุดไว้  แต่พระรัสสีเลยถามข่าว  พระจึงถามดูมันไม่พูดจา  ทำยังไงมันก็ไม่พูด ไม่ว่าจะด่าจะว่ามันเช่นใดมันก็ยังไม่ยอมปริปากพูด  พระรัสสสีเครียดหนักถึงเรื่องเผาเมืองจนเป็นเท่าผงธุลีแน่แท้  พระจึงสั่งให้หนุมานลงไปกวาดผงเท่ากองไว้  พระจึงถวายแก้ว คถาอาคม  จึงเกิดเป็นรูปลิงกระโดดโลดเต้นอยู่  พระจึงลืมตาขึ้นได้ถามว่าหนุมานเหตุใดจึงมาหาตนถึงในห้องได้
                เตโชแก้วหนุมานแถลงว่าเป็นราชทูตของพระราม  พระอย่าเคืองข้าเลยพระก็ไปกราบไหว้รัสสี  พระลามก็นำนางแก้วสีดามายั่วยุถึงเขตที่พัก  ถ้าว่ามีพระยาผู้เสวยราชลังกาก็ลักพานางสีดาทั้งกอดลัด ฟัดเหวี่ยงตัวมา  อันว่า  จอมกษัตริย์ศรีรัตนาคใช้ข้านำทางเที่ยวหา  อันว่า  เมืองลังกาแห่งแม่น้ำใหญ่อยู่แห่งใดพระเอย  พระบาทจอมรัสสีบอกหากมาถึงเมืองนี้จะได้แก้วมีฤทธิ์แรงในร่างกาย  จากนั้นพระรัสสีเผยภาพ  จึงเอาชายผ้าสีแดงเช็ดหน้า  จากการเจรจาจนใกล้ค่ำ  แสงจันทร์ก็ค่อยมืดลงพระรัสสีจึงเอาเศษผ้ามาปูจึงบอกให้หนุมานนอน  แต่หนุมานกลับขอเพิ่มว่าผ้าผืนน้อยมีแต่ผ้าขาดส้อยที่มีอยู่ให้มึงนอนเท่านี้ก็ดีแล้ว  หนุมานจึงล้มตัวลงนอน  มันก็คิดว่าผ้ามีพื้นที่น้อยต้องเนรมิตตัวให้ใหญ่และยาวพอดีกับผ้า  มันวัดความกว้างออกสามวาเพื่อให้ผ้ายาวออกเยอะให้พอดีกับตัวมัน  แล้วผ้าก็เหลือพอที่จะห่อหุ้มไว้ก็ยังพอที่จะใช้ประโยชน์ต่อได้  มันก็ดึงออกทั้งผืนใหญ่สุดท้ายก็หมดแรงล้มตัวลงนอน
                เตโชแก้วหนุมานนอนนิ่ง  พอถึงใกล้จะสว่างไก่ไม่ขัน  พระรัสสีลุกขึ้นบ้วนปากเอาน้ำล้างหน้าแล้วสั่งว่าจะออกมาบิณฑบาต  พอเมื่อพระสั่งแล้วคนก็ออกมานิมนต์เจ้ารัสสีให้หยุด  พระจึงลงไปสู่พื้นมนุษย์  หนุมานยังคอยอยู่มันก็หักไม้มาสีฟันเอามือล้างหน้า  บ้วนปาก  ใช้ผ้าเช็ดหน้าเสีย  มันก็คิดในใจถึงคำสั่งของพระรัสสีมิให้อยากดูจึงโผล่หน้า  เห็นเงาตัวเองในน้ำ  มันก็ใช้ตีนกวัดแกว่งจนปิงติดเท้ามันเกาะไม่ปล่อย มันก็ขนลุกไปทั่วร่าง  มันก็รับปัดปิงทิ้ง  ปิงยังจับมันแน่นขึ้นมันก็ทะโยนขึ้นตัวก็กระเด็นจ่องลง  มือเท้าก็จับจ้องมันทำตัววอกแวกหน้าตาตื่นตกใจ
ปีนจ่องตีนหนุมาน
                มันเหาะทะยานขึ้นไปบนอากาศถีบตัวยาวเกือบจะถึงพื้น  หนุมานถีบไม่ปล่อย  ครูบาก็คิดและนึกถึงอาคม  กูมีฤทธิ์เพี้ยงนี้ว่ารัสสีตัวนี้ทำฤทธิ์กูเสื่อมใครที่มีฤทธิ์แก่กล้าก็อาจเสื่อมลดต่ำลงได้  ทำเอาเจ็บปวดไปถึงฟัน  จ่องเท้าหนุมานคาอยู่ไปไม่ได้ได้เพราะติดหม้อไห  สุดท้ายหนุมานหมดฤทธิ์จึงเอาโซ่คล้องขาไว้พระรัสสีก็ออกบิณฑบาตได้ผยองเผ่นมาก็หยุดจอดที่อาศรม  จึงเห็นหนุมานนั้นลงน้ำ  พระจึงบอกหนุมานว่าอย่าลงไปถ้าไม่เชื่อคำกู  มึงจงถ่มน้ำลายลงล่างเสียโดยเร็ว  แต่นั้นน้ำลายกับร้อนเสียนั้น  มันลุกเดินมาห้องบทุลี  นับแต่มันปีนหนุมานรัสสีบอกจึงรีบถ่มน้ำลายเสีย  จึงสอนคติต่อด้วยคนจึงนับถือสืบมา
                รัสสีเจ้าเห็นพระก็เอาก้อนคำให้กิน  มันปั้นก้อนพอดีคำแล้วกินพออิ่มรัสสีให้มึงกินดูก่อน  หากไม่อิ่มกูจะให้กินเพิ่มแท้  หนุมานจับก้อนคำใส่ปากมันเคี้ยวค่อยๆ กินแล้วกลืนลง  แต่ยังเหลืออยู่เต็มแก้มมันพยายามกลืนลงไปเรื่อยๆ  จนเริ่มอิ่มก็เริ่มอมไว้ในแก้มไม่ยอมคาย  พระรัสสีผู้ประเสริฐบอกว่าให้มันเอาไว้อย่างนั้นแล้วจะหมดเสียทีหรือไม่หนุมาน คิดจะกินตอนไหนก็กินหนุมานก็อมไปเล่นไป  พอกินอิ่มก็จึงถามทางไปยังเมืองลังกาว่าอยู่ที่ใด  หนุมานพระรัสสีแลจงบอกจงไปทางนั้นก็จะถึงเมือง
                แต่นั้น  เตโชแก้วหนุมานมีเดช  ท้าวก็ใช้ให้หนุมานทะยานพาไป  ผ่านไปเห็นน้ำในมหาสมุทรเป็นฟองฟูฟ่องขาว  เป็นคลื่นเกียวกวัดแกว่งเสมอฟ้าแล้วเหาะไปยังก้อนเมฆ  ลอยไปอยู่เหนือฟ้า  อันว่าฤทธิ์เริ่มอ่อนแรงลง  เลยทะยานลงพื้นครูบาก็ตกลงไปยังมหาสมุทรไปไกลแสนโยชน์  เห็นปลาก็เต้นจับกิน  เอาเท้าแทงท้องปลา  ครูบาเลยตามน้ำไปโดยเร็วพลันจนถึงเมืองลังกาแก้ว  ท้าวก็โผล่ขึ้นจากน้ำแล้วก็เห็นเมืองหลวงอันใหญ่โต  หนุมานเลยทะยานขึ้นไปบนอากาศ  ลิงเห็นสาวสวยแก้มพราวใส  จึงทะยานลงไปหาสาวเหล่านั้น  พอมองลงที่ปราสาทยอดแก้วมณี  ท้าวจึงเนรมิตตัวเป็นคนซึ่งมีสิริโฉมงดงามดั่งพรม  เนรมิตผ้านุ่ง  เครื่องแต่งกายแก้วแหวน สังวาลเพื่อมาประดับตกแต่งกาย  ทัดดอกไม้ใส้ต่างหู  เนรมิตเด็กให้มาลุมล้อม      ให้มาเดินข้างกายตัวเอง  มีรูปโฉมงดงามดั่งพระอินทร์  พอแดดเริ่มอ่อนหนุมานก็เดินเข้าสู่เมือง  หมู่สาวก็พากันจับจ้อง เมียงมองจนจิตใจสั่นไหว
หนุมานเว้าสาวลังกา
                สาวๆ ก็พากันหลงเสน่ห์ในตัวของหนุมาน  ท้าวเอามือกวาดต้อนสาวๆ เพื่อให้เข้ามาพูดหยอกเย้าให้สาวนั้นหลงรักในตัวเอง  อันว่าพี่อยากหอมแก้มเจ้า  พวกสาวๆ ก็ชายตาดูหนุมานอย่างไม่ละสายตา  เสียงอันไพเราะอ่อนหวาน  ก็พูดจากับหมู่สาวๆ พี่นี้หากเป็นค้างเป็นลิง  สาวเจ้าก็ตอบกลับเจ้านี้หรือเสมือนลิง  ลิงอะไรจะมารูปงามเช่นนี้  รูปงามปานเซี่ยนไว้  รูปเจ้างามเหมือนหน่อพญา  ท้าวก็พาสาวๆ หากข้าประสงค์จะขอดมดอมหอมแก้มแม่สาวลังกา  ตายแล้วก็ขอให้ได้มาเกิดยังเมืองนี้เถิด  อันว่าพี่ก็เหมือนรากยา ดังยูงยางขอนหมื่นลำจองต้นเทียมดั่งหงส์เปรียบดั่งมณีแก้วในถ้ำแท้แม่เอย
                พี่นี้เปรียบดั่งลำไม่ใหญ่ที่แข็งแรง  แต่ไม่มีกิ่งก้านใบต่อไปให้ต้นสมบูรณ์หากแต่น้องจะมาต่อต้นให้สมบูรณ์  แต่ถ้าพี่ผ่านวันนี้ไปก็คงอาจจะไม่เจอหน้าน้องอีก  โสมสมรรู้หรือไม่พี่จักมีงาซ้อนดมน้องพี่เจ็บร้าวที่อกเหมือนแก้วมาปักไว้น้องเอย  ขอให้น้องหงายตักแด่พี่  สาวก็รับคำของหนุมาน  ว่าที่พูดนี้ก็ไม่มีข่าวแจ้งในเมืองสวรรค์พี่  รู้ว่าสัจจานี้จริงดั่งว่า  น้องก็สบายใจพี่เอย  อันเมืองลังกานี้มีแต่หนองน้ำขุ่น  พี่จักล้างเนื้อตัว  อะนึ่งคือแมลงภู่แสวงหาหมู่มวลดอกไม้แต่มันยากที่จะกล้าเข้าไปชมดอกเจ้านั้น  เป็นดั่งเคือเกี้ยวถึงแสนเคือก็มิอาจเห็นได้  น้องไม่แจ่มแจ้งแลพี่เอย  ท้าวก็พูดจาหว่านเสน่ห์  ขอให้น้องอย่าคิดถึงพี่เลย  ลังกานี้ถึงน้ำจะขุ่นก็ตามพี่ก็จะอาบกินให้สมใจ  กลัวแต่หนองน้ำนี้มีจอกแหนแกมมาด้วย  บัวนั้นหากอยู่ในซอกฝนก็ไม่รดก้านกินรีก็ไม่ขาด  นาคก็ไม่ลงเล่นน้ำที่แห้งขาดดอกพี่เอย  ชาตินี้คงไม่ได้เป่าเป็นแน่  แมลงภู่หรือสู้ช้างมิได้  ไม่มีบุญได้ดอมหอมดอกเจ้า  ลังกานี้เป็นเมืองกว้าง  มีนกอยู่มากหากนกได้อาศัยกิ่งไม้งามแม่เอย  หมู่สาวก็แลตามองอยู่อย่างนั้นแล
                อันว่าหน้าตาจิตใจแน่แท้ดั่งฟ้ามาพรม  เนื้อตัวผิวพรรณสดใส  คิ้วโก่ง  ตาคม  สาวน้อยสาวใหญ่  ลุ่มหลงในตัวหนุมานชื่นชมกันยกใหญ่  โอ้สไบผ้าเกี้ยวหมู่สาวเซิ้งสะพายแคน  เป่าปี่เข้ามายังสนามกว้าง  แต่นั้นหนุมานก็ชื่นชมโสมนัสสาวว่างงามอะไรเช่นนี้  เมื่อลมพัดผ่านกายชาย  บ่าวน้อยผู้เสียงหวานเจ้าทำไมถึงมือไวเหมือนแมวจ้องแต่จะคลุบปลาย่าง  พี่ขอหอมแก้มน้องดูก่อน  หากแน่แท้พี่ก็ไม่ขืนใจ  พี่ยอมมอบแหวน มอบทุกอย่างให้เจ้าเพียงผู้เดียว
                เมื่อนั้นสาวเจ้าพูดอ้อน อ่อนหวานอรชอน เจ้าหากมือไวเหมือนชะนี  เหมือนเสือที่จะเขี้ยวเหยื่อหากเจ้าเป็นชายแท้จะมาทำเช่นนี้ไม่ได้  อย่าพูดต่อหน้าเพื่อนพ้องเหล่านี้  เห็นว่าเจ้าจะแก่  เจ้าจงดูงูที่อยู่ข้างๆ ตัวนั้น  เมื่อหันมาได้ยินเสียงอ่อนหวานก็เห็นรูปโฉมอันงดงามของพี่  พี่นี้ลุ่มหลงจนลืมเรื่องเพศ  สักแต่จะได้  อันนางนี้บริสุทธิ์ต้องขออภัยพี่ด้วย  ชีวิตของข้าขอถวายแก่พี่เฮียม  คำรักของพี่แผ่ทั่ว  เสน่ห์มีอยู่รอบกายในตัวพี่นา
                โอ้น้องสาวชีวิตพี่ขอร่วมไมตรีขอให้น้องรับรักพี่ตามความประสงค์ของพี่  น้องยอมไม่มีเสีย  ชาตินี้ขอให้เราได้ร่วมเคียงคู่  เขาพูดกันทั้งเมืองหยอกเย้ากันไม่สมกับเจ้าฟ้ามหากษัตริย์  พอให้ปวงข้าหายโศกเศร้าไปเพียงชั่วครั้งชั่วคราว  ท้าวก็ตอบสาวงามพี่ประสงค์ในตัวน้องพี่ขอชมน้องให้พอมีแรงใจ  บางคนอาจจะหมดความหอมไม่เหมือนตัวน้อง  แต่พี่ขอแตะต้องเนื้อนองจะได้ไหม  พี่ขอมอบทุกสิ่งอย่างเพื่อให้น้องมารักพี่  เหมือนได้ชิดชมเคียงคู่  ขอจับต้องกายเจ้าให้พี่พออุ่นใจ  น้องก็มิใช่มิอยากให้พี่นั้นหน่ายแหน่งใจน้องภายหลังเมื่อเห็น้องแล้วอาจจะเบื่อ  หมดรักน้องเป็นแน่แท้
                หนุมานเลยหัวเราะ  น้องช่างพูดไปได้  วาจาน้องหวานไพเราะเหมือนน้ำอ้อย  งามทั้งรูปคำพูดน่าฟัง  พี่เป็นบ่าวขึ้นใหม่  ไม่มีชายใดมาเทียบได้ดั่งพระอินทร์ลงมาแต่ง  แต่ดูไปรูปของพี่ก็เหมือนลิง  ท้าวหนุมานก็ชี้แจงช้าก่อนสาวสงวน  พี่นี้จักดอมดมสาวกลุ่มนี้  พอให้หายเศร้าใจ  พี่มิคิดจะจอด  หากพบน้องสาวแล้วพี่ก็จะขอรักน้องผู้เดียว  ใครจะคิดเทียมพระองค์ได้  หากบริสุทธิ์แท้น้องขอถามพี่  หากมีคู่ซ้อนขอให้บอก  ท่านเป็นถึงกษัตริย์ย่อมมีหญิงเข้ามาหา  ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นพี่ขอครองรักและร่วมไมตรีเหมือนกับเขาก็ไม่สามารถกั้นขวางเราได้
                เราก็ลองพูดจาคบหากันไปก่อน  ถ้าเป็นคู่กันจริงแม่สาวเอย  ใครมาเกี้ยวผูกไมตรีจิตก็ขอให้น้องมีจิใจหนักแน่น  น้องเอยพี่นั้นมิประสงค์จะหาใครใหม่  ถ้าเขามาหาพี่ก็ปฏิเสธ  พี่ถือใจซื่อบุญน้องหากมาค้ำ  สาวๆ เหล่านี้ยังน้อยหน้าน้องแม่เอย  พี่นี้เปรียบดั่งกาดำมิอาจเทียมหงส์เจ้าอย่าหนีพี่เลย  แม่จอมเจ้า                มากลุ้มพวกข้าไว้  หนุมานพี่นี้หากเกิดในวังอุ่นเอย  พี่ก็ไม่ได้ดีมาจากไหน  พี่ขอให้น้องรักและยินยอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพี่เถิด
                พอหนุมานกล่าวเช่นนั้นสาวเจ้าก็พูดขึ้นโดยพลัน  ชอบก็ขอให้ชอบจริงอย่าเล่นลิ้นสับคำ  พี่นั้นเป็นดั่งแหทอดไว้ส่วนตัวน้องนั้นเป็นดั่งไซอยู่ใต้ล่างอุ่นเอย  ถูกก็จับใส่ไม่ถูกก็ปล่อยไว้แล้วแต่ปลา  ตัวไหนลอยมาจึงจะดักเอาปลาก็เสมือนหญิงในโลก  บัดนี้พระจงอย่าอั้มอึ้งอย่าเมินหน้าหนี้  จิตใจอาจจะชอบพอแต่ขออย่าจืดจางพี่เอย  อย่าได้คิดให้พระทัยมุ้ง  ขอให้ครั้งนี้เป็นการพบเจอกันที่ดี  ได้มาเห็นหน้าแล้วจงอย่าหมางเมินหนีไป  ขอให้อยู่เคียงคู่ในห้องนี้
                หนุมานเมามายเสียแล้ว  สาวก็ต้านคำจนแสบท้องหนุมานเลยพ้ายเมืองลังกาดูเหมือนไกลจนกว่าแปดคืนก็ถึงเมืองลังกา  ให้อยู่ถึงแปดคืนเสียเจ้า  วังใหญ่เมืองนั้นใหญ่กว้าง  เมืองใหญ่ล้อมคนได้จำนวนมาก  เมืองเป็นเจ็ดชั้นกว้างกว่าแปดแสนวา  กำลังคนก็นับแสนนับล้าน  หนุมานนอนครบได้แปดคืน  อาศัยซุ่มดูอยู่ห่างๆ  ทุกคนกว่าสามพัน  กุมารสามร้อย  หนุมานทรงฤทธิ์เนรมิตตัวให้ใหญ่ได้สมใจหลังจากได้ชมนางผู้นั้น  ก็เนรมิตตัวเป็นหนุ่มน้อยรูปงามจับพวงแก้มสาวอย่างเต็มมือแล้วขยายตัวให้ใหญ่เท่าสาวผู้นั้น  จากนั้นสาวๆ เมืองลังกาก็หลั่งไหลเข้ามา  บางคนก็เข้ามาให้หนุมานกอดหอม  บางคนก็นุ่งผ้าเต้นลำ  บ้างก็ถูกพ่อแม่ไล่กลับบ้านก็มี  แล้วก็มีการป้ายเสน่ห์แก่สาวๆ  หนุมานก็ใช้เล่กลหลอกให้สาวๆ มาติด  แล้วก็เกิดแสดงกริยาอันไม่ควรจับต้อง  จูบปะโลมแก้มจนหนำใจหนุมาน  หนุมานพูดถึงสาวเจ้าผู้มีเสน่ห์เทียมเท่าน่าทะนุถนอม  อย่าได้จากพี่ไปเลย  ขอให้น้องมาเป็นของพี่เถิดถ้าน้องถึงบ้านเมืองจงอย่าลืมพี่แน่แท้  สาวใหญ่ก็ตอบกลับข้ากลับไปก็จะรักษาเนื้อตัวให้เทียมเสมอท่านพี่เอย  ให้น้องนั้นคิดถึงหน้าพี่แน่แท้  พี่จะจากลาเจ้ากลับบ้านก่อนแม่สาว  เจ้าอย่าลืมคิดถึงพี่น้องเอย  อย่าได้ลืมพี่แม้เราต้องห่างกัน  คิดถึงสัจจาที่เราเคยให้  อย่าลืมพี่ที่มีแต่รักมั่นวาจาซื่อตรง  เว้นแต่แม่นอนพื้นเสียศีลขอให้เป็นแม่หม้ายไปจนวันตาย
                กลุ่มหญิงสาวก็ผายมือออกเขากลับร้องไห้หรุดลงหอมหนุมาน  เหตุเพราะแพ้คำพูดอันแสนหวานของหนุมาน  สาวเจ้าก็พยายามทำใจพร้อมบอกว่าคำพูดของพี่นั้นช่างไพเราะรื่นหู  เมื่อเธอถึงบ้านอย่าลืมเธอ  พี่ก็คิดถึงน้องครวญหาทุกวันถ้าว่าแหลืมข้องมันก็ขาดกันไม่ได้  เกวียนถ้าหากตากไว้ฝนตกก็จะเปียก  ด้งมันหนีไปแห่งใดคาดไถควายก็จะลาต่าง  ไก่อูซิลาเข้าก้อง  ครกมองซิลาแกบ  คุซิไลหม้ออุแอ่งน้ำกะบวยเต้นแล่นหา  สังมาปะละนาทามเฮื้อหนีไปดำนาซ่าว  พี่ไม่เคยทิ้งน้องจะให้เป็นหม้ายได้อย่างไร  หนุมานตอบ  พี่ก็คิดถึงนางให้คอยพี่ที่นี่ได้ยินเสียงพัดพ้าวดังสนั่นใบตาลเหมือนจะหนาวจนเป็นไข้  พี่จะจากบ้านเก่าจะละสาวกลับห้องคอยอยู่ดี  คอยอยู่เสมอเพื่อพบเจ้าผู้รูปโฉมงดงามพี่เอย  พี่ขอลากลับบ้านแล้วสักวันจะกลับมา
                น้องอย่าได้มีใหม่ซ้อนสองเสียน้อง  น้องจงคอยพี่นี้กลับมาพี่ขอเอาขวัญเจ้าเดินทางกลับไปพร้อม หล่อนว่าให้เอาขวัญน้องเดินทางไปด้วย  เชิญเอาขวัญคิ้ว  หู  ตา  แก้มอ่อนๆ  เดินทางเป็นเพื่อนให้พออุ่นใจ  ที่ขอเชิญขวัญนมทั้งสองเต้าเอาไว้เหนือหัว  ให้เป็นเพื่อนพูดของพี่ระหว่างทาง  หากน้องเมื่อยล้าพี่จะแบกขึ้นหลังน้อยเอย  พี่จะเอาเอ็นหนังมอบถวายนางแก้ว  เชิญเอาขวัญตัวน้องกลับเป็นเพื่อน  กลับเข้าห้องน้องกลิ้งกล่อมพระไมพี่แล้ว
                สาวเจ้าทำท่าอรชอน  ขอให้พี่ถวิลหาว่าขวัญหัวพี่จะยังอยู่ในพี่  น้องจะเรียกขวัญมานอนไว้กล่อมสอง  พอให้หายคิดถึง  พอให้พี่นั้นหวนคืนกลับมาหาน้อง  ถ้าพี่ถึงห้องก็อย่าลืมน้องที่คอยอยู่ทางนี้ไปก็ขอให้ไปแต่ตัว  แต่ขัวญของพี่อย่าได้ไปด้วย  จิตใจก็ขอให้อยู่ที่นี่ทุกเช้าเย็น  น้องจะได้เห็นหน้าพี่ก่อนเข้านอน  เมื่อน้องเกิดทุกข์ร้อนอันใดน้องจะสั่นโปงลางให้ดังจนง่วง  ทั้งลูกน้ำเต้าที่ถวายพี่ชายแล้วนั้น  ความว่า  พี่นี้ไม่ลืมน้องเจ้าคำเอยพี่ก็จะลาจากเมืองไปคอยน้องที่ห้อง  ความว่า  สั่งแล้วก็ค่อยเคลื่อนย้ายไปยังเวียงหลวงหอแก้ว  หนุมานก็แผงฤทธิ์บดบังเข้าไปสู่เมือง  แม้นคนจะรักษาเวียงเป็นหมื่นก็ตาม  เขาก็ไม่เห็นหนุมานอย่างแน่ชัด  เจ้าก็ลวงกายขึ้นผาดผยอง  นางสีดาเหลือบเห็นหนุมาน  นางจึงแลเห็นรูปโฉมอันงดงาม  จึงได้หมายตาหัวเราะยิ้มเยาะหนุมาน  แต่สิทธิเดชของหนุมานก็ขานคำบอกนางแก้วไว้แล้ว  ข้านี้ไม่ใช่ชาติเชื้อท้าวเทศเมือง  หากเป็นพระยอดเมืองพระก็จงใจแท้  อันว่าพระยอดแก้วขอเจ้า  บัดนี้ข้าขอเชิญแก้วกัลยา  อันว่า  พระลามผู้ทรงบุญ  พระอย่าคิดโศกเศร้าแน่แล้ว  จงเอามาเพื่อประสงค์เจ้าถ้าว่าเสน่ห์หาแก้วเมื่อใด  อันว่า  พระอวนชายที่อยู่ทางโน้นจะเผาเป็นผงธุลีพระเอย  ถ้าว่าจอมพระนางมีสองเสียก็ดี  นางพบรักใหม่คงลืมพี่ไม่คิดถึง  ไม่ถวิลหา  ขอให้นางไขข้อข้องใจข้องข้าด้วยเถิด  อย่าได้ไถ่ถามถ้อยความนั้นเลย  ถ้าว่าน้องเจ้าประสงค์ในตัวพี่  น้องจะขอถอดเอาวิมานแก้วเหาะล่วงปอมเมฆมา  นำไปถวายพระลามดั่งประสงค์  นครเมืองศรีสัตนาคก็คงยินดีชื่นชมทั่วแคว้นแน่แล้ว
หนุมานเว้านางสีดาจันทะแจ่ม
                ครั้งนั้นนางสีดาทำหน้ายิ้มแย้ม  นับแต่พญาตั้งแต่เอาน้องมาอยู่ที่นี้น้องก็หากคิดถึงพี่  แม่ว่า  พญาราบใจบาปหนักหนามันก็เอามาอยู่ด้วย  พญาราบก็เรียกน้องว่าเมีย  แม้ว่า  พญาจะมาร่วมหอห้อง  เมื่อใดน้องก็คิดถึงแต่พี่ทุกเมื่อทุกเวลา  แน่แท้  นั่งรอวันคืนทุกเช้าค่ำ  คืนนั้น  กินไม่ได้นอนไม่หลับ  เพราะคิดถึงแต่พี่  ครั้งนี้  หากมีบุญน้องก็จะกลับไปหาพี่อยากกลับไปยังบ้านเมือง  แต่ด้วยภัย ปัญหาต่างๆ ก็ต่างเป็นอุปสรรค  แม่ว่า  แต่ก่อนนั้นพระลักพระลามยังใคร่ได้ทั้งสอง  บัดนี้เหลือเพียงเจ้าคนเดียว  เจ้าพลันด่วนเสียไปนี้  เจ้าจะปกป้องข้าไปยังเมืองผู้เดียวได้อย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น